
Programs หลักสูตร
"Education is the most powerful weapon which you can use to change the world". Nelson Mandela
"การศึกษาเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดที่คุณสามารถใช้เพื่อเปลี่ยนโลก"
1. จัดการศึกษาหลักสูตรการศึกษาของคณะสงฆ์ไทย
ได้แก่ การเรียนนักธรรม และภาษาบาลี ซึ่งเป็นหลักสูตรโดยตรงสำหรับพระภิกษุ-สามเณร และเป็นรายวิชาบังคับแกนในการเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายโดยโรงเรียนจัดการเรียนการสอนในภาคเช้า ตั้งแต่เวลา 08.00 – 10.30 น.ใช้เวลาเรียนวันละ 3 คาบ สัปดาห์ละ 15 คาบและจัดอบรมพิเศษก่อนสอบ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสูตรของคณะสงฆ์ไทย
2. จัดการศึกษาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของกระทรวงศึกษาธิการ
โดยเปิดทำการสอนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย ได้จัดการเรียนการสอนในภาคบ่าย เริ่มตั้งแต่เวลา 13.00 -17.30 น.มหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย เป็นสถาบันที่ให้การศึกษาแก่พระภิกษุ – สามเณรอย่างต่อเนื่องครบตามหลักสูตรการศึกษาของคณะสงฆ์ และตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้บุคลากรทางพระพุทธศาสนาได้มีดวงตาทั้งสองด้านทันต่อวิทยาการทางโลกที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว สามารถนำเอาพุทธธรรมเข้าถึงประชาชนได้อย่างชาญฉลาด.
3. ด้านอาหารและการเป็นอยู่
มหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย เป็นสถาบันที่มีพระภิกษุ-สามเณรเข้าพักศึกษาเล่าเรียนอยู่เป็นจำนวนมากและตั้งอยู่ห่างจากชุมชน จึงไม่สะดวกที่จะออกรับบิณฑบาต เนื่องจากไม่เพียงพอสำหรับพระภิกษุ – สามเณร ซึ่งอยู่กันเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องจัดตั้งโรงครัวประกอบอาหารเช้า-เพล ปัจจุบันใช้จ่ายด้านค่าภัตตาหารประมาณวันละ 25,000.- ถึง 30,000.-บาท นับว่าเป็นภาระหนักพอสมควรสำหรับผู้บริหาร แต่ด้วยแรงศรัทธาของท่านพุทธศาสนิกชนที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาสำหรับพระภิกษุ – สามเณร จึงได้บริจาคทรัพย์ตั้งกองทุนมูลนิธิ ในมูลนิธิมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อนำดอกผลมาเป็นค่าใช้จ่ายและจากการถวายภัตตาหารเช้า – เพล ในโอกาสต่าง ๆ จึงทำให้มหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย สามารถดำเนินงานการจัดการศึกษาแก่พระภิกษุ – สามเณรมาได้ถึงปัจจุบัน
4. ด้านการรักษาพยาบาล
มหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย ตั้งอยู่ไกลจากโรงพยาบาล เมื่อมีพระภิกษุสามเณรอาพาธ จึงเกิดความลำบากในการรักษาพยาบาล ต่อมาได้มีท่านผู้มีจิตศรัทธาสร้างตึกเพื่อเป็นสถานพยาบาล จำนวน 1 หลัง เป็นที่ทำการตรวจรักษาพระภิกษุสามเณรอาพาธ และตรวจรักษาประชาชนโดยทั่วไปในละแวกใกล้เคียง ดำเนินงานในรูปของมูลนิธิ กล่าวคือ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานนามมูลนิธินี้ว่า “ มูลนิธิสิรินธร ”ปัจจุบันมีพยาบาลประจำ 4 ท่าน อยู่เวรปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง และมีนายแพทย์ทำการตรวจรักษาโรคทั่วไปสัปดาห์ละ 1 วัน ตรวจรักษาโรคตา สัปดาห์ละ 1 วัน และแพทย์ตรวจรักษาฟัน สัปดาห์ละ 1 วัน
หลักสูตรรายวิชาล่าสุด
>
<
